ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกปิดท้ายในสัปดาห์ที่ 32 กับคู่ระหว่างคริสตัลพาเลซเปิดสนาม ต้อนรับการมาเยือนพบ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล เปิดเกมครึ่งแรก ปืนใหญ่เดินเครื่องลุยไม่ยั้ง ลุยเต็มที่จนหืดจับขึ้นคอแม้ครึ่งแรกสกอร์ ยังเสมออยู่ 0 ต่อ 0 จนมาถึงครึ่งหลัง อาร์เซนอลได้จุดโทษในช่วงนาทีที่ 53 มาร์ติน โอเดการ์ด ทำหน้าที่ยิงแบบไม่มีพลาด ส่งผลให้อาร์เซนอล บุกนำไป 1 ประตูต่อ 0 พร้อมเสียงเฮจากแฟนบอลรอบสนาม
ประตูแรกเริ่มที่นาทีที่…!?
ผ่านมาสู่นาที 62 บูคาโย่ ซาก้า จ่ายสั้นไปที่ โธมัส ปาร์เตย์ ยิงบอลจากนอกกรอบแต่สุดท้ายผู้นักษาประตูเจ้าบ้านก็สามารถ ตัดทิ้งไปได้ หวุดหวิด ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ทิ้ง คะแนนนำห่าง
แต่ต่อมาเกม เกือบพลิกในนาทีที่ 67 เมื่อเหลือตัวผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน เนื่องจาก เสียจังหวะที่ทาเคฮิโร โทมิยาซึ ปัดมือไปเหนี่ยวลำตัวของทางด้านจอร์แดน อายิว ทำให้โดนใบเหลืองที่ 2 และต้องโดนใบแดง ไล่ออกส่งผลให้เหลือผู้เล่นในทีมเพียงแค่ 10 คนเท่านั้น แต่สุดท้าย จบเกมหลังจากที่ไม่มีการทำประตูเกิดขึ้นอีกจึงส่งผลให้อาร์เซนอลชนะไป 1 ประตูต่อ 0 รับแต้มเต็ม 6 แต้ม จากการชนะ 2 ครั้งส่วน ทางด้านคริสตัลพาเลซอยู่อันดับที่ 11 ของตาราง คะแนนเท่าเดิม 3 แต้ม ส่วนนัดถัดไปของอาร์เซน่อนนั้นจะไปพบกับ ศึกลอนดอน ดาร์บี้กับฟูแล่ม
บทสัมภาษณ์ท้ายเกม
ทั้งนี้หลังจบเกมทางด้านมิเกล อาร์เตดา ผู้จัดการทีมของอาร์เซนอลนั้นได้มีการออกมา เปิดใจพร้อมระบุว่าดีใจที่ทีมสามารถทำคะแนนและได้รับชัยชนะเหนือคริสตัลพาเลซถึงแม้ว่าจะมีผู้เล่นเหลือในช่วงสุดท้ายเพียงแค่ 10 คนก็ตาม แต่ตนนั้นก็ไม่เห็นด้วยเรื่องของการถ่วงเวลากฎใหม่ของพรีเมียร์ซึ่งเขาได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ในกฎหมายของพรีเมียร์ลีกนั้นส่งผลให้โทมิยาซึต้องโดนใบเหลืองใบแรกหลังจากที่ทางด้านผู้ตัดสินมองว่าผู้เตะเจตนาที่จะถ่วงเวลาทุ่มลูก ทั้ง ๆที่ บอลนั้นอยู่ในมือเพียงแค่ 8 วินาทีเท่านั้น ส่งผลให้เมื่อโดนใบเหลืองที่ 2 จึงกลายเป็นใบแดงเนื่องจากเป็นการทำฟาวล์ พร้อมทั้งบอกว่านี่คือมาตรฐานใหม่แต่ตนเองก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่าจะนานแค่ไหน แม้ว่าผู้ตัดสินจะบอกว่าผู้เล่นถือบอล 23 วินาที แต่เขาคิดว่า ผู้เล่นใช้เวลาเพียงแค่ 8 วินาทีเท่านั้น ดังนั้นจึงอยากให้ชัดเจนในการจับเวลา และการสื่อสารให้มากเนื่องจากวิธีการสื่อสารของเราแตกต่างกัน แต่เนื่องจากผู้เล่นได้มีการทำเต็มที่และนักเตะก็ยอดเยี่ยม ดังนั้น จึงคิดว่าอยู่ในช่วงของการปรับตัว